Friday 31 July 2009

ถ้าไอ้หน้าบากมาสวมชุดผีจะเกิดอะไรขึ้น


ถ้า ฟร้อง ริเบรี่ ไปอยู่ แมนยูที่สุดแสนจะจัดจ้าน ความร้อนแรงอันนี้จะส่งผลอย่างไรกับแมนยูเพราะจริงๆตอนนี้แมนอยู่ยังขาดตัวแจ่มแจ๋วในแนวกราบทั้งสองข้างเหลือ กิ๊ก ที่แก่เกินแกงแม้จะมีพิษสงอยู่แต่ต้องมีด้อยลงไปบ้าง ปาร์ค จีซอง เล่นดีแต่ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ นานี ได้หวือหวาแต่ไร้ประสิทธิภาพต้องใช้เวลาปรับแต่ง จนแล้วจนรอดใช้ เวน รูนี่ย์ มาเล่นทางกราบซะเลย หากได้ไอ้หน้าบากมาสวมชุดผี ก็คงน่ากลัวใช่มั้ยละ แต่ราคานี้ที่บาเยิร์นตั้งไว้คงไม่ไหวแน่สำหรับแมนยู แต่ถ้า35ล้านปอนด์ตามที่ แมนยูเสนอละ ก็ตกเป็นของผีไปเลยกลายเป็นผีหน้าบากที่คอยหลอกหลอนทีมในพรีเมียร์เป็นแน่ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าท่านเซอร์จะใช้วิธีการเล่นแบบไหน แต่ถ้าเมื่อไรย้าย รูนนี่ย์ไปเล่นกองหน้าแบบเต็มๆละขอบอกอันนี้น่ากลัวกว่าการมีโรนัลโด้อีก ริเบรี่ ด้อยกว่าโรนัลโด้ในเรื่องของการยิงประตู แต่ ริเบรี่ก็เป็นคนที่เล่นตามเกมส์ได้ดีกว่า ซึ่งทำให้หมดข้อครหาในการงกบอลหรืออยากดังเอง หากย้ายมาทีมผีแดงจริงผีแดงจะน่ากลัวขึ้นแบบกระโดดเลยแต่ริเบรี่คงไม่ดังไปกว่าโรนัลโด้แล้วละเพราะความมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แมนยูมิจุดเด่นในเกมส์รับที่สุดยอดคอนกรีตเรียกพี่ แดนหน้าโคตรพญายม แต่แดนกลางยังขาดนิดนึงหากมีสิ่งมาเติมเต็มทั้งสองข้างด้านกราบซ้ายกราบขวาหรืออาจจะปรับแท็กติกให้เข้ากับผู้เล่นที่มีก็น่ากลัวแล้วแต่ถ้าท่านเซอร์ยังเล่น4-4-2ต้องหาผู้เล่นอย่าง ฟร็อง ริเบรี่นี่ ละถูกตัวแจ่มเลย

อลอนโซ่ไปก็ไม่เสียหายเพราะหมดใจแล้ว


คงต้องกล่าวย้ำอีกซักทีสองที การจากไปของ ซาบี้ อลอนโซ แต่ยังไม่เป็นทางการ เจ้าตัวพร้อมที่จะไปอยู่แล้วรั้งไว้ก็ป่วยการเหมือนเตะให้ครบฤดูกาลแล้วค่อยย้าย ปล่อยไปลิเวอร์พูลไม่เสียหายแม้จะมีนักเตะที่คนเกลียดขี้หน้าเยอะที่สุด คือ ลูคัส เลวาขึ้นมาแทน อย่าลืมเด็กคนนี้จริงๆก่อนมาทีมหงส์แดงก็เป็นเทพมาเหมือนกันแต่ไม่คุ้นกับการเข้าบอลที่หนักหน่วงหลังจากอยู่มานานแล้วน่าจะเริ่มปรับตัวได้บ้าง เพราะจริงๆแล้วไม่อยากให้เก็บนักเตะไร้ใจไว้ในทีมถึงแม้จะมีประโยชน์มากมายแต่ก็เป็นโทษเรื่องของสปิริตทีมพอสมควรในระหว่างฤดูกาล หลังจากเพื่อนร่วมชาติของเขา ศุนย์หน้าตัวโปรดของกองเชียร์บอกว่า หากขาดอลอนโซ่ หงส์ขาดใจ เป็นคำพูดของ ตอเรสศูนย์หน้าตัวเก่ง เป้นคำพูดที่พยายามยื้อให้เพื่อนอยู่ด้วย ถ้ามองกลับกันทีมกำลังจะเสียติเรสนี่ซิ ถึงควรเสียดายอย่างมหาศาลเพราะ ศูนย์หน้าระดับนี้หาไม่ได้อีกแล้วที่มาทดแทนแต่แดนกลางอย่างอลอนโซ่มองกวาดสายตาทั่วยุโรปมีมากมาย หรือถ้าหงส์มีไอเดียแปลกๆแบบข้าพเจ้าแล้ว เอา มาฮามาดู ดิร์ยาร่า ของราชันชุดขาวนั้นละเข้ามาเกี่ยวกับสัญญารับรองมีแต่กำไรเพราะราชันก็ไม่ได้ต้องการเขาคนนี้แล้ว ยอมจำนนแล้วคุณชายหากจะไปขอเก็บแต่ความทรงจำดีดี

Wednesday 29 July 2009

รีลมาดริดชนะในเกมส์อุ่นเครื่องใช่ว่าชุดขาวจะแชมป์

(คลิ๊กดูวอลเปเปอร์สวยที่รูป)

แม้ชนะแต่ยังมีจุดอ่อนอยู่ที่เดิมคือเสียประตูง่ายเกินไปจากลูกโหม่งล้วนๆแม้ว่าจะมียักษ์ด๊อยซ์อยู่คนนึงก็ตาม เมตเซลเดอร์กองหลังผู้ที่เคยเก่ง แต่มาเป็นเต่าอยู่แถวเมืองหลวงสเปน หากปีนี้เรียกฟอร์มเดิมๆกลับมาได้จะช่วยราชันได้เยอะ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ หลังราชันปวกเปียกเลยไม่รู้ว่าการกลับมาของทีมชาติสเปนจะทำให้ช่วยอุดรอยรั่วได้หรือไม่ วันนี้นี้ที่แจ่มๆเห็นจะมีโด้นี่ละใช้ได้เลยทีเดียว ที่เหลือยังธรรมดา น่าจับตามองกรานเนโด อนาคตแจ่มแจ๋ว หากมีโอกาสนะ ยังมีเวลาที่จะแก้ไขในแผงหลัง แม้เกมสืจะชนะแต่ความประทับใจนั้นยังไม่เท่าไรในสายตา ต้องมีอะไรที่มากกว่านี้ ถึงจะล้มเจ้าบุญทุ่มบาเซโลน่าได้ จังหวะทำเกมส์ดูจะมีแค่ลูกที่สี่นั้นละที่แสดงให้เห็นว่านัดกันมาเป็นการซ้อม เมื่อ รอยตัน เดรนเธ่ ส่งไปให้กับ เนเกรโดยิง แต่ก็มาจากการโต้กลับซึ่งรีลมาดริดทำได้ดีทีเดียว การป้องกันที่มีปัญหาจะทำให้ไปไม่ไกลแก้จุดนี้ได้ไปฉลุย จะมาใช้การยิงเท่าไรเอาคืนให้มากกว่าคงจะยากเมื่อถ้าเจอทีมอย่าง สามทีมดังจากอังกฤษ หงส์ ผี หอย คงยากเพราะแน่นปึ้กเชียว ต้องทำให้เสียน้อยไว้ก่อนเพราะเกมส์รุกนั้นทีมรีล มาดดริดขึ้นชื่อมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ปิร์โล่ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเชลซี


ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของอันเชล็อตติเหมือนกันต้องการ ปิร์โล่ มาทำอะไรน๊า หรือจะเป็นนักเตะคู่บุญ หรือมีเรื่องเงินเข้านอกออกใน แค่ในทีมแดนกลางแทบจะชนกันอยู่แล้วไม่ว่าในแดนรับและรุกที่เล่นกันได้หลากหลายตำแหน่งเยอะไปหมด โอบี มิเกล เอสเซียง บัลลัค แลมพาร์ด เดโกที่เล่นได้รุกอย่างเดียว ในตอนนี้หากมองแล้วเซลซีขาดผู้เล่นที่ลากเลื้อยถ้าจะซื้อน่าจะซื้อคนที่กระชากบอลได้ โดยมีแค่สองสามคนเองที่เล่นได้ โจโคล ไม่รู้จะเจ็บอีกเมื่อไร มาลูด้า ผีเข้าผีออก คาลูก็ยังไม่แน่นอนเช่นกัน สำหรับผมมองแล้วเวลซีมีจุดบกพร่องตรงนี้ขุมกำลังอื่นๆ แน่นปึ้ก จะว่าไปจะดูดีกว่า รีลมาดริดเสียด้วยซ้ำในแง่ของการทดแทนเพราะรีลมาดริดมีแค่ตัวจริง ยิ่งแดนหลังแล้วตัวจริงมาดดริดเผลอๆจะสู้สำรองเชลซีไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ฟุตบอลทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับจังหวะทุกคนมีขึ้นมีลง ดีนะที่มิลานปฎิเสธหากตกลงมาเนี้ย เท่ากันกับ เชลซีเสียเงินแลกกับของที่มีอยู่แล้วมาใช้ ถ้าในมุมของคนที่มองว่าของเดิมดีกว่าคือ ได้ใข่เบอร์0มาแทนไข่ธรรมดา ถ้ามุมของคนที่มองว่าของเดิมดีกว่า มีเพชรอยู่แล้วไปเอาพลอย มันก้คือไม่ต่างกัน ผลออกมาก็เหมือนเดิม เชลซีขาดสิ่งที่ผมกล่าวมาแต่การปรับกลยุทธของ อันเซลอตติอาจจะมีเหตุผลที่ต้องใช้ตัวที่เขาต้องการก็เป็นได้ แค่ความคิดในมุมนึงของคนอย่างเรา55555

โคโล่ ตูร์เร่ ตาม อเดบายอร์ไปแน่แล้ว

ส่อเค้าจะตามเพื่อนร่วมทีมที่จากไปสดๆร้อนๆ เมื่อกุนซือ เวนเกอร์ ออกมายันเอง เป็นการเสริมที่น่ากลัวทีเดียวสำหรับแมนซิตี้ที่ได้กองหลังผู้นี้ไปจึงทำให้จุดอ่อนของแมนซิตี้จะเหลือตรง แบ็ค ซ้ายและกุนซือ ซึ่งรายฝ่ายคิดออกมาตรงกันว่า มาร์คฮิวคุมสถานการณ์ไม่อยู่แน่ แต่การได้ ตูร์เร่มาเสริมความแข้งแกร่งแดนหลังนั้นเยี่ยมมากทีเดียว แล้ว เวนเกอรืละจะทำยังไต่อไปคำตอบนี้สงสัยปืนต้องยอมเสียเงินหาตัวแทนเสียแล้ว ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าโคโล่ ตูร์เร่ผู้นี้มีความสำคัญในแดนหลังของอาเซน่อลอย่างมาก หรือจะใช้ เซนเดอรอส หรือ โยฮัน ญูรู เล่นคู่กับ กัลลาส ดูท่าจะไม่ปึ้กเท่าที่ควร การเสีย โคโร่ตูเร่เกิดความเสียหายหนักให้ ไอ้ปืนโตเป็นแน่หากไม่รีบหาตัวมาเสริมมีสิทธิ์ที่จะหลุด บิ๊กโฟร์ได้เลย แม้จะมีกุนซือสมองเพชรก็ตามยังไงเสียเมื่อคุณสมบัตินักเตะไม่พร้อมแผนจะดีแค่ไหนเล่นได้สวยยังไงมันยังไม่ใช่คำตอบที่จะได้แชมป์ แม้ ปืนใหญ่อาเซน่อล จะเป็นทีมที่เล่นได้น่าติดตามที่สุดในลีก แต่เรื่องแชมป์ยังอยู่ในเปอร์เซ็นต่ำอยู่หากทุกคนไม่เล่นในฟอร์มพีคจริงๆ แดนกลางแดนหน้าไม่น่าห่วงเพราะว่าแม้ไมใช้สตาร์ ก็เล่นได้เพราะระบบของเวนเกอร์เอื้อต่อผู้เล่นทุกคน ทุกคนเป็นสตาร์ได้ในทุกเกมส์ ยังไงส่วนตัวเช่อว่า เวนเกอร์ จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เพราะได้เงินจากการขายสองนักเตะของทีมออกไป ไม่นานเกินรอจะได้รู้ว่านักเตะผู้นั้นเป็นใครกัน

เขาไปด้วยกันทั้งคู่เลย แบบนี้ปืนจะอยู่ยังไง สงสัยบาร์ยอ มาชวนเพื่อน โคโล่ ไปอยู่ด้วยกัน

Tuesday 28 July 2009

โรโบ เคร้าซ์ ไม่น่าใช่คำตอบสุดท้ายของไก่


ไก่ตัวใหม่เป็นปีเตอร์ เคร้าซ์ กองหน้าไก่มีเยอะเกินไป แตถ้าขายดาเรน เบนซ์ ได้ก็ถือว่าโอเค ไม่น่าเชื่อว่า แฮรี่ จะชื่ชอบตัวของเคร้าซ์เป็นพิเศษ ดูจากการซื้อตัวแต่ละครั้ง จะมี เคร้าซ์ คนนี้มีส่วนร่วมเสมอ แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่เล่นได้ดีพอสมควร มีข้อเสียในการทำฟาล์วบ่อยมากเท่านั้นเอง แต่ตามตรง เคร้าซ์ยังมีคุณสมบัติไม่เท่า เอมิล เฮสกี้ ที่มีส่วนร่วมในทีมมากกว่า ทำไมไม่มีทีมในหันไปมองนักเตะสูงวัยผู้นี้จริงอายุอานามยังไม่แก่มากใช้งานได้อีกหลายปี และที่สำคัญไก่เดือยทองมี นักเตะที่กำลังจะเริ่มปรับตัวได้อย่าง พลาฟลิวเชนโก้ แต่จริงๆมีปัญหาด้านการสื่อสาร ซึ่งเคร้าซ์ ได้เปรียบเยอะ ด้านการสื่อสาร แต่คำตอบของ สเปอร์มีปัญหาไม่ใช่แดนหน้าหากจะเป็น ปีกซ้าย และแบ็คซ้ายมากกว่า ถ้าไม่เร่งหาก้คงต้องหวังที่ เกเรธ เบลให้พัฒนาฟอร์ม เพราะจริงทีมไก่เดือยทองมีกองหน้าที่เพียบพร้อมอยู่แล้วแต่เชื่อว่าจ่าแฮร์รี่เขาคนนั้นต้องมีแผนอื่นเป็นแน่ ขั้นแรกต้องหาทางปล่อย เบนซ์ หรือ พาฟลิวเชนโก้คนใดคนนึงแล้วเสริมทัพก่อนจะปิดตลาด เชื่อใจไก่ในปีนี้ไม่ป้อแป้แบบปีก่อนแน่นอน

หากเฮียมู คุมผีแดง

หากเฮียมู โฆเซ่ มูรินโญ่ ไปคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะทำยังไง เพราะ โฆเซ่เป็นกุนซือมีชื่อ แล้วเปรยว่าพร้อมสละ อินเตอร์หากว่าผีแดงติดต่อมา ในการพูดออกมาแบบนี้ แสดงได้สองอย่างคือ รู้อยู่แล้วว่าไม่เรียก หรือ อย่างที่สองสนใจ อยากคุมทีมผีแดงดู หากเป็นจริงต้องอึ้งไปตามๆกัน หมดยุค เซอร์แล้วดันเสือกมีคนระดับนี้มาเสียบอีก หากเป็นอดีตเด็กเก่าอย่าง มาร์ค ฮิว หรือ รอยคีน ทีมจะลดความน่ากลัวไปเยอะเพราะ นักเตะเก่ามีบารมีก็จริงแต่ว่า ความสามารถยังไม่ถึง และที่สำคัญมูรินโญ่อายุยังไม่มากคงอยู่โยงแน่เพราะผีไม่ยอมหยุดกับความสำเร็จ จริงๆแล้วผมชอบเป็นการส่วนตัวนะแม้รูปเกมส์จะไม่สวยงามมากนักแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ แต่หากกุนซือที่ผมชอบที่สุดกลับเป็น อาเซน เวนเกอร์ ของอาเซน่อล หากเขาคนนี้ไปคุม รีลมาดริดในยุคนี้ คงบอกได้คำเดียวไร้เทียมทาน แต่มูรินโญ่เหมาะกับทุกทีมไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือเล็กเพราะรูปแบบการเล่นที่รัดกุม มีแผนระหว่างเกมส์มากมาย หลังเคยอ่านหนังสือประวัติส่วนตัวแล้วน่าสนมากมายในตุวกุนซือคนนี้ อย่าปล่อยให้ผ่านไปทางผีนะหงส์เอามาแทนราฟามั้งได้มั้ย

Monday 27 July 2009

อินเตอร์โคตรคุ้ม เอโต้ เคล็บ บวกเงิน


อินเตอร์โคตรคุ้ม ได้เอโต้ และยืมตัว เคล็บ แถมเงินอีกบาน 30ล้าน
อะไรจะสุขขีสโมสรกว่านี้คงไม่มี ใครจะดชคดีเท่ามูรินโญ่ใช่ว่าการเสียอิบราฮิมโมวิช จะส่งผลกระทบกับอินเตอร์เลยได้ศูนย์หน้าที่เป็นขั้นเทพมานะไม่ใช่ขี้กากมาจากไหน อย่าง ซามูเอล เอโต้ ทีมไหนเขาก็ต้องการ ข้อเสียคือบางครั้ง เอโต้ ชอบทำตัวเป็นคนเจ้าปัญหา แต่ คนที่ไป ซลาตันใช่ว่าจะเป็นคนที่ปัญหาน้อยไปกว่ากัน ถือว่าคุ้ม เพราะนักเตะมีความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย หากไม่มีเอโต้บาซ่าไม่แรงทะลุนรกอย่างวันนี้ สิ่งที่เอโต้ด้อยกว่าซลาตันมากที่สุดเห็นจะเป็น แค่หน้าตาที่หล่อเหลาของซลาตัน แถมมูรินโญ่เงินมาจับจ่ายอีก แถมมีมิดฟิลด์ริมเส้นมาเสริมคอยดูความเป็นไปของอินเตอร์ละกัน เมื่อมูรินโญ่ได้สองตัวเก่งกับได้เงินมาใช้กับตัวเป้าหมาย ไปโลดแน่ๆ แต่คงไม่ถึงดวงดาวที่คาดไว้ในแชมเปี้ยน ลีก การที่ซลาตันไปอยู่บาซ่าอาจจะเป็นการดีเช่นกันเพราะว่าได้นักเตะที่ต้องการ มาแทน กองหน้าเจ้าปัญหา แต่อย่าลืมถึงความเจ้าปัญหาของ ผู้เล่นรายใหม่เช่นกัน ลดภาระค่าเหนื่อยของเคล็บ เคสนี้ถือว่าวินวิน แต่ อินเตอร์คุ้มสุดๆ555555

Friday 24 July 2009

เมื่อเจอร์ราดรอดหงส์ก็สบายใจ


ที่ผ่านมาเหล่าแฟนหงส์แดงไม่สบายใจกันเป็นแถบๆเพราะว่าอาจจะสูญเสียนักเตะสำคัญซึ่งไม่ใช่พวกที่จะย้ายทีม แต่เป็น สุดยอดกัปตัน สตีเวน เจอร์ราร์ดในคดี ทำร้ายร่างกาย นาย แมกกี มันเป็นแฟนผีแดงถึงเอาเรื่อง เจอร์ราร์ดแบบไม่ยอมลดละ แต่ด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ไม่รู้ใช้กำลังภายในหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือ รอดคดีแล้ว
พิพากษาคดีนี้ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน เลาจ์ อินน์ เป็นเหตุจากการบันดาลโทสะ จนเกิดความรุนแรงขึ้น "ระยะเวลาที่เกิดขึ้นแม้จะไม่นานนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นคดีที่ไม่สำคัญ" เจอร์ราร์ดกลับมาตั้งสมาธิหลังเหตุการณืเลวร้ายได้จะได้เห็นความมุ่งมั่นที่จะตอบแทนคำตัดสินนี้เป็นอย่างดี เพราะ กัปตันทีมคนนี้ มีส่วนสำคัญต่อฟอรืมของทีมลิเวอร์พูเหลือเกิน บอกตามตรงว่าวันใดหงส์แดงไม่มีเจอร์ราดอาจจะขาดใจ ส่วนคนอื่นไม่เป็นไร ลูคัส เลวา ที่เขาว่ากันห่วยๆ อีกไม่นานเกินรอจะกลายเป็นนักเตะสำคัญเลยทีเดียว แต่ไม่มีใครสำคัญเท่า "สตีวี่ จี" คนนี้อีกแล้ว


ฟอร์มนี้เลยนะลูกพี่

ถ้าไม่มีคนเจ็บ สเปอร์จะอันดับสูงกว่าเรือใบ

ไก่เดือยทองนั้น เป็นทีมที่น่าจับตามองมาหลายฤดูกาลแต่ น่าแปลกใจตรงที่ฤดูกาลที่แล้วต้องลุ้นหนีตกชั้นเฉยเลย แต่ด้วยพ่อมดแฮรี่ มาช่วยปลุกให้ตื่นแต่ก็สายเกินไปที่จะลุ้นรายการต่างๆ ปีนี้น่าลุ้น หากไม่เจอโรคเดี้ยงกันเข้าไปเป็นระนาว แม้จะไม่ได้ศูนย์หน้าอย่าง เคร้า หรือ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ แต่ปัญหาของไก่เดือยทองไม่ได้อยู่ที่แดนหน้า แม้ พาฟลิวเชนโก้ ปีที่ผ่านมาจะไม่สามารถโชว์ความยอดเยี่ยมออกมาได้แต่เชื่อแน่แดนหน้า ไก่ไม่มีปัญหา นอกจากข่าว ที่สาวล่าแต้มทำให้นักเตะสเปอร์ครึ่งทีมติดนั้นชัวร์ ไก่คงแย่ เพราะดูขุมกำลังของทุกส่วนสัดจะลงตัว และ ผู้จัดการทีมชั้นเซียนอีกต่างหาก ประตูอย่างโกเมส ไม่ เฟอะฟะ คูดิชินี่ก็สุดเหนียว
แดนหลังขาดแค่ ตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ยังไม่ลงตัวเท่าใดนัก ก็ไม่ใช่หมายความว่าเล่นไม่ได้ แต่หากมีตัวดีกว่าก็โอเค แดนกลางก็ขาดทางปีกซ้ายที่เหลือลงตัวทุกตำแหน่ง แดนหน้ามีนักเตะระดับพระกาฬมากมาย ร็อบบี้ คีน เดโฟ พาฟลิวเชนโก กลางนี่อนาคตเลยโอฮาร่าจะดัง ลูก้า โมดริช อารอน เลนน่อน ปาลาซิออส ดูฟอร์มปีที่แล้วดูอนาคตสดใส หากไม่ติดเอดส์ แดนหลังเก๋าๆประคองหากไม่เจ็บกลางคันก็ผ่านฉลุย มองอนาคตที่สดใจแล้วสเปอร์ที่ใช้เงินไปน้อยกว่าเรือใบอยู่หลายขุม แต่จบฤดูกาลตำแหน่งดีกว่าเรือใบแน่หากเรือใบยังได้นักเตะแต่แดนหน้า ต้องหันมามองไก่กันบ้างนะ


Peterborough 0 v 4 Spurs

หากมา ปืนตามข่าวรุ่งแน่

คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ผลิตผลจาก ฮอลแลนด์ รายนี้ ก้าวสู่เวทีโลกด้วยการก้าวกระโดดเกินไป ดังเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียรนัย เลยทำให้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในทีม ราชันชุดขาว จะว่าไปแล้วเด็นคนนี้ไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็กเลยละในช่วงวัย 14 ปี ฮุนเตลาร์ ก็สร้างชื่อด้วยการเล่นให้กับทีมชุดซี ของเดอ กราฟส์ชาพ และยิงไปถึง 33 ประตูจาก 20 นัดเท่านั้นผลงานดังกล่าวทำให้เขาโดนดันขึ้นสู่ทีมชุดบี1 และก็ยังคงถล่มประตูเป็นว่าเล่นอีก 31 ลูกในฤดูกาล 1999-00 จนทำให้ทีมยักษ์ใหญ่อย่างพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีมในเดือน มิ.ย.ปี 2000
แม้จะย้ายไปอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่แต่ฮุนเตลาร์ ยังคงมีระดับฝีเท้าที่เหนือกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอย่างเห็นได้ชัดและก็กลายเป็นดาวซัลโวของลีกระดับเยาวชน ถึงเวลาที่เหมาะสม ฮิดดิ้งค์ ดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
แต่ ฮุนเตลาร์ ไม่สามารถที่จะเบียดแทรกตัวเข้าทีมชุดใหญ่ของพีเอสวีได้ โดยเขาได้เล่นนัดประเดิมสนามด้วยการลงไปแทนดาวยิงประจำทีมอย่างมาเตย่า เคซมัน ในวันที่ 23 พ.ย.2002 ซึ่งพีเอสวีชนะขาดลอย 3-0 เหนืออาร์บีซี รูเซนดาล แต่นั่นก็เป็นการเล่นเพียงนัดเดียวในชีวิตของเขากับพีเอสวี ฮุนเตลาร์ โดนส่งตัวให้กับเด กราฟส์ชาพ สโมสรเก่าใช้งานเพื่อเก็บประสบการณ์อีกครั้ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาผิดหวังเมื่อได้ลงเล่นแค่ 9 นัดและทำประตูไม่ได้เลย ซึ่งเด กราฟส์ชาพ ก็ตัดสินใจที่จะไม่เซ็นสัญญากับเขาอย่างถาวร ความล้มเหลวในครั้งนี้ทำให้ฮุนเตลาร์ โดนส่งตัวไปให้กับสโมสรเล็กๆอย่างอาโกฟฟ์ อาเพลดูร์น ยืมตัวไปใช้งาน แต่ครั้งนี้มันถึงเวลาที่เพชฌฆาตหน้าใสจะแจ้งเกิดเสียที เมื่อเขายิงประตูได้ตั้งแต่เกมแรกที่ได้ลงเล่น และจากนั้นเขาก็เหมือนกับลูกระเบิดที่รอวันปลดชนวนอยู่นาน ฮุนเตลาร์ ยิงประตูได้เป็นว่าเล่นถึง 26 ประตูจาก 35 นัดในลีกและจบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวในที่สุด ทำให้ทีมอาโกฟฟ์ ถึงกับตั้งชื่ออัฒจันทน์ฝั่งหนึ่งว่าเป็น "คลาส ยาน ฮุนเตลาร์" เพื่อระลึกถึงจอมล่าตาข่ายรุ่นเยาว์เลย
แจ้งเกิดไม่ทันไร ฮุนเตลาร์ ก็ต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางอนาคตของตัวเองเป็นครั้งแรกเมื่อพีเอสวี ยื่นสัญญาฉบับใหม่มาให้เซ็น แต่เขากลับเลือกที่จะปฏิเสธมันและเซ็นสัญญาย้ายไปอยู่กับฮีเรนวีน ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 100,000 ยูโรเท่านั้น ซึ่งกลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฮีเรนวีน
ฮุนเตลาร์ ยิงประตูได้ตั้งแต่เกมแรกก่อนที่จะยิงรวมได้ถึง 17 ประตูจากการเล่น 31 นัดในฤดูกาลแรกกับฮีเรนวีน และมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกในฤดูกาลที่ 2 ของเขาในปี 2005-06 เมื่อจบช่วงแรกของฤดูกาลเขาทำไปแล้วถึง 17 ประตูจากการเล่นแค่ 15 นัดเท่านั้น ผลงานร้อนแรงยังงี้ ทำให้อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตัดสินใจดึงตัวไปร่วมทีมทันทีด้วยค่าตัวถึง 9 ล้านยูโรเลยทีเดียว เขาต้องใช้เวลานานถึง 5 นัดกว่าจะยิงประตูแรกให้กับทีมอาแจ๊กซ์ได้ แต่หลังจากที่ยิงได้ฮุนเตลาร์ ก็ทำประตูได้เป็นว่าเล่นโดยในเดือน ก.พ. เพียงแค่เดือนเดียวก็ยิงไปถึง 9 ประตูจาก 7 นัดที่เล่นให้กับอาแจ๊กซ์ จบฤดูกาล 2005-06 ฮุนเตลาร์ ยิงรวมได้ถึง 33 ประตูจาก 31 นัดในลีกที่เล่นให้กับฮีเรนวีนและอาแจ๊กซ์ คว้ารางวัลดาวซัลโวไปครองแบบไร้คู่แข่ง
ในฤดูกาลต่อมา ฮุนเตลาร์ ก็ยังคงทำผลงานได้ร้อนแรงเหมือนเดิม โดยในช่วงก่อนออกสตาร์ทฤดูกาลก็ไปสร้างชื่อด้วยการทำประตูแรกในสนามเกมเปิดเอมิเรตส์ สเตเดียม ของทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในเกมเทสติโมเนียลแมตช์ของเดนนิส เบิร์กแคมป์ตำนานของทีมกันเนอร์สและเคยเป็นเด็กปั้นของอาแจ๊กซ์ด้วย แต่สุดท้ายอาร์เซนอลก็ชนะไปในเกมดังกล่าวด้วยสกอร์ 2-1 หลังจากนั้นฮุนเตลาร์ ก็ยิงเป็นว่าเล่นไม่ว่าจะในรายการพรีเมียร์ดัตช์ หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า คัพ ที่อาแจ๊กซ์ต้องร่วงลงมาเล่นหลังตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเขาก็ยิงไปถึง 8 ประตูจาก 7 นัดก่อนจะยิงรวมในลีกได้ 21 ประตู
ฮุนเตลาร์ ยังคงทำผลงานได้ดีในลีกโดยทำคนเดียวถึง 4 ประตูในเกมแรกของฤดูกาลที่ต้องพบกับทีมเก่าของเขา เดอ กราฟส์ชาพที่เพิ่งเลื่อนชั้นมา ซึ่งอาแจ๊กซ์บุกไปชนะได้ถึง 8-1 และยังยิงประตูเรื่อยมาจนเวลานี้ซัดไปแล้ว 9 ประตูจาก 7 นัด และจะยังคงยิงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และในทีมชาติเค้าก็ติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วหลายนัด และแล้ววิบากกรรมบนรอยยิ้มก็เกิดกับเขา เพราะไม่รู้เป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือถูกในการย้ายสู่ยักษ์ใหญ่อย่างราชันชุดขาวเพราะเขาไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย หากว่าเขาได้ย้ายทีมจริงตามข่าว คงต้องบอกว่าปืนโต อาเซน่อล ที่มี อาเซน เวนเกอร์ อยู่ จะทำให้ชีวิตการค้าแข้งของ หัวหอกวัยรุ่นคนนี้ กลับมายิ่งใหญ่และ อาจจะเก่งกว่า รุด ฟานนิสเตอรอย ก็เป็นได้


รวมประตูของคลาส แยน ฮุนเตลาร์ ดูกันเอาเอง

Thursday 23 July 2009

ซลาตัน ไม่น่าค่าตัวระดับนั้น

กองหน้าชั้นยอดในวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน ลีลาการเล่นที่สวยงามเหนือชั้นและไม่สามารถคาดเดาการเล่นได้จนเป็นเอกลักษณ์ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดศูนย์หน้าทีมชาติสวีเดน ที่เริ่มต้นเส้นทางชีวิตสายลูกหนังได้เล่นในระดับเยาวชนกับเอฟเค บอสน่า, เอฟบีเค บอลคาน และทีมเยาวชนของมัลโมมาระยะเวลาหนึ่ง ด้วยพรสวรรค์ที่มากล้นในตัว ทำให้อิบราฮิโมวิช เป็นกองหน้าที่โดดเด่นกว่านักเตะร่วมรุ่นและทำให้ถูกยอดกุนซืออย่างอาร์แซน เวนเกอร์ แห่งอาร์เซนอล พยายามชักชวนให้ไปร่วมทีมด้วย โดยเฉพาะเวนเกอร์ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการปั้นดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการพยายามตามตื้ออย่างจริงจัง แต่สุดท้ายมัลโม ก็ไม่อาจรั้งซลาตันได้อีกต่อไป เมื่ออาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทุ่มเงินถึงกว่า 7.8 ล้านยูโร เพื่อดึงตัวไปร่วมทีม และช่วงนั้นเองก็เป็นช่วงเวลาที่ซลาตัน เริ่มเล่นทีมชาติด้วย สำหรับอาแจ๊กซ์ ซลาตัน เริ่มต้นได้สวยงามไม่น้อยได้รับเลือกลงเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ และก้าวมาเป็นกองหน้าสตาร์เด่นของทีม ซลาตัน มาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวให้กับอาแจ๊กซ์ ในเวทียุโรปคือเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับโอลิมปิก ลียง โดยนัดนั้นซลาตัน เหมาซัดคนเดียว 2 ลูก โดยหนึ่งในนั้นเป็นประตูที่คลาสสิคสุดๆ ด้วยการลากเลื้อยหลบเอ็ดมิลสัน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟดีกรีทีมชาติบราซิล ก่อนจะยิงมุมแคบเข้าไปอย่างเหลือเชื่อ ประตูดังกล่าวทำให้เริ่มมีการพูดถึงเจ้าหนูมหัศจรรย์คนใหม่รายนี้ โดยเฉพาะการเปรียบเทียบกับกองหน้าลีลาคลาสสิคอย่างมาร์โก แวน บาสเท่น หรือเดนนิส เบิร์กแคมป์ แต่ถ้านำคำถามเรื่องนักฟุตบอลต้นแบบของซลาตัน เขาจะตอบว่า "โกรัน เตอร์เพฟสกี้" อดีตกองหน้ารุ่นพี่ในทีมมัลโม หลังจากนั้น ซลาตัน ก็ยิ่งกลายเป็นดาราเด่นของทีมและกลายเป็นที่หมายปองของยักษ์ใหญ่ในยุโรป ยังสร้างปรากฎการณ์ได้ต่อไปเมื่อทำประตูสุดมหัศจรรย์ได้อีกครั้งในการเจอกับเอ็นเอซี เบรด้า ในเกมลีกฮอลแลนด์ โดยเป็นประตูที่คล้ายกับลูกยิงในตำนานของดีเอโก้ มาราโดน่า ด้วยการลากหลบผู้เล่นของเบรด้าเป็นว่าเล่น และโชว์กรหลอกล่อผู้รักษาประตูอย่างเหนือชั้นที่แม้แต่ช่างภาพที่ตามจับภาพยังโดนหลอกให้หลงคิดว่ายิงเข้าไปแล้วด้วย ซึ่งสุดท้ายหลังการหลอกจนทุกคนในสนามได้แต่อ้าปากค้าง ซลาตัน ก็บรรจงส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายแบบง่ายๆ แต่หลังจากนั้น ซลาตัน ก็เริ่มมีปัญหาในทีมอาแจ๊กซ์ โดยเฉพาะความขัดแย้งกับราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กัปตันทีมที่ทำให้สุดท้ายเขาก็ต้องย้ายออกจากรังอัมสเตอร์ดัม อารีน่า ไปอยู่กับยูเวนตุสแทน ด้วยค่าตัวมหาศาลถึงกว่า 19 ล้านยูโรในฤดูร้อนปี 2004 และถึงจะเป็นการย้ายทีมไปอยู่กับยักษ์ใหญ่อย่างยูเว่ แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับซลาตัน ที่จะแย่งตำแหน่งกองหน้าตัวจริงมาได้ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ดาวยิงตัวหลักของทีม "ม้าลาย" ในเวลานั้นอย่างดาวิด เทรเซเกต์ เกิดบาดเจ็บขึ้นมาพอดี และฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชของยูเว่ ในขณะนั้นก็ชื่นชอบซลาตันอยู่แล้ว (เคยพยายามจะซื้อตัวไปร่วมทีมตอนคุมโรม่า) ซลาตัน ประสบความสำเร็จอย่างงดงามอีกครั้งกับยูเว่ โดยยิงไปถึง 16 ประตูและมีส่วนช่วยให้ยูเวนตุส คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา มาครองได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเพราะมีกองหน้าน้อยรายนักที่จะมาทำผลงานได้ดีในลีกลูกหนังสุดหินในอิตาลี และในฤดูกาล 2004/05 นั้นเองที่เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของแฟนๆ ชาวเบียงโคเนรี่ รวมถึงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดนในปีเดือน พ.ย. 2005 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ซลาตัน ก็ต้องพบกับช่วงชีวิตที่ยากลำบาก เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมากมายทั้งกับสื่อมวลชนในสวีเดนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แถมยังโดนปรับบทบาทในทีมยูเวนตุสด้วย ผลงานในสนามย่ำแย่ลงมากและเริ่มตกเป็นตัวสำรองบ้างบางนัด แต่กระนั้นซลาตัน ก็ยังวาดลวดลายได้บ้าง แต่เปลี่ยนจากบทบาทกองหน้าจอมถล่มประตูเป็นจอมใส่พานให้เพื่อนแทน ซึ่งก็มีบางคนเห็นว่านี่เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาด้วยซ้ำไป แม้จำนวนประตูจะลดลงมากก็ตาม แต่ทุกอย่างก็เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากนั้น เมื่อเขาเริ่มสูญเสียฟอร์มการเล่นไป และโดนวิจารณ์อย่างหนัก และเริ่มถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาของทีม โดยเฉพาะกับความเย่อหยิ่งและมักจะสร้างปัญหาให้ทีมเสมอๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ลามไปถึงในระดับทีมชาติสวีเดนด้วย ทั้งที่ตลอดมาซลาตัน เป็นตัวความหวังของทีมได้โดยตลอด มาถึงในฟุตบอลโลก 2006 ซลาตัน ก็มีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าจะทำผลงานได้ดีในรอบคัดเลือกจนพาทีมเข้ามาสู่รอบสุดท้ายที่เยอรมันได้ก็ตาม โดยสวีเดน เล่นได้แย่ในรายการดังกล่าวแถมซลาตัน ยังมีอาการบาดเจ็บจนไม่ได้ลงเล่นในเกมสำคัญกับทีมชาติอังกฤษด้วย ก่อนที่จะโดนเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของเจ้าภาพ หลังจากกลับจากเยอรมัน ชะตาชีวิตของเขาก็ต้องพลิกผันอีกรอบ เมื่อยูเวนตุส ถูกศาลลงโทษริบแชมป์ 2 สมัยก่อนหน้านี้และปรับตกชั้นให้ไปอยู่ในเซเรีย บี อันเนื่องจากคดีล็อกผลการแข่งขัน ทำให้ต้องย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวสูงถึง 24.8 ล้านยูโร ซลาตัน ใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าในการเรียกฟอร์มเดิมๆกลับมากับอินเตอร์ มิลาน และในที่สุดก็สามารถกลับมาเป็นกองหน้าตัวความหวังได้ มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ในฤดูกาลนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้เส้นทางของกองหน้าที่มีลีลาการเล่นสวยงามดังการเริงระบำบนฟลอหญ้า ลีลาของซลาตัน ไม่ธรรมดาตามที่กล่าวมาจริงๆแต่ค่าตัวระดับที่กำลังยื่นๆกันในทีมใหญ่ ไม่เหมาะสมจริงๆสำหรับนักเตะคนเดียว ที่ช้า และบางจังหวะเล่นเพื่อตัวเอง แต่ลีลาพริ้วไหวดังสายน้ำ ชอบก่อปัญหาในทีมเป็นประจำ ทั้งเชลซี และ บาเซโลน่าสามารถที่จะมีนักเตะแบบนี้อยู่ในทีมที่ไม่ได้ด้อยกว่ากันมาก เสียดายเงินที่ต้องไปซื้อนักเตะใหม่ที่ค่าตัวแสนแพง อาจพุ่งไป 60 ล้านปอนด์เลยทีเดียว อเนลก้า และคร็อกบาที่เซลซีมีอยู่ไม่ได้ด้อยไปกว่า ซลาตันเท่าใดนักบางทีช่วงพีคอาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ บาเซโลน่า ไม่ต้องพูดถึงเลย อองรี และ ลิโลเนล เมสซี่ เป็นดัง เทพแห่งลูกหนัง แม้สรีระจะไม่เทียมเท่า ซลาตันก็ตาม เขาเรียกว่าชมก่อนตบในการวิจารณ์วันนี้เพราะเห็นค่าตัวที่เสนอซื้อกันแล้วตกใจมาก แม้จะเป็นนักเตะที่เล่นได้ดีในสายตาข้าพเจ้า

ลีลาการยิงประตูแจ้งเกิดของซลาตัน น่าทึ่ง!

เฮียมู ณ อินเตอร์ เสริมหลัง


เฮียมูเสริมทัพด้วยกองหลังจอมบุกชาวบราซิล ลูซิโอ ได้กลายเป็นสมาชิกใหม่ของ อินเตอร์ มิลาน ไปซะแล้ว หลังเซ็นสัญญาย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค เป็นเวลา 3 ปี คาดค่าตัวราว 240 ล้านบาท อินเตอร์ มิลาน ยอดทีมแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี บรรดาแฟนบอลต่างยินดีต้อนรับ ลูซิโอ ผู้ซึ่งเซ็นสัญญากับสโมสรจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2012" ทั้งนี้ ลูซิโอ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในแนวรับของทีม "งูใหญ่" ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา คริสเตียน คิวู ปราการหลังทีมชาติโรมาเนีย ต้องรับภาระหนักแต่เพียงผู้เดียว เพราะกองหลังคนอื่นๆ สลับกันมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน เจ๋งจริงๆเลยสำหรับกึ๋นของเฮีย มู กองกลังผู้ที่เชี่ยวกราดไปด้วยประสบการณืแถมยังเล่นเกมส์รุกได้ด้วย มีข้อเสียคือ อายุอานามมากไปแล้วหรือเปล่าบทพิสูจน์ไม่ต้องเพราะเกมส์ที่ อิตาลีแสนจะช้า คิดว่า ลูซิโอรับมือได้สบาย เพราะปีนี้ มิลาน คงเสริมทัพกันเป็นแน่ อินเตอร์ขยับก่อนถือว่าได้เปรียบ ไม่รู้ว่าเฮียมู จะเสีย สลาตัน อิปบราฮิมโมวิช หรือเปล่า หลังจากได้ เอโต้ กับ ลูซิโอ สบายใจได้หายห่วง ตอนนี้ อินเตอร์จองแชมป์จากหน้ากระดาษของ กัลโชไปเป็นที่เรียบร้อย

หรือว่า กัปตัน เจิด จะติดคุก


กัปตันผู้ยิ่งใหญ่อย่าตายน้ำตื่นนะ เสียดายอนาคต ถ้าผิดจริงถึงขั้นแขวนสตั๊ดไปในตัวเลยทีเดียว สุราทำให้คนเปลี่ยนไปมันก็ไม่เชิง เพราะเมาจากการเฉลิมฉลองนั้นละเป็นเหตุของการคุมสติอารมณ์ไม่อยู่ แค่การขอเพลงหรือว่ามีเหตุการณ์อย่างที่คนไม่อยู่ในเหตุการณ์จะรู้ได้เพราะที่สำคัญ ไอ้ตาแม็คกี นี่มันแฟนผีแดงซะงั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังเกมลิเวอร์พูลบุกไปอัดนิวคาสเซิ่ล 5-1 ในศึกบ็อกซิ่ง เดย์ เจอร์ราร์ด ออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนรวมทั้งหมด 6 คน ที่ผับ เลาน์จ อินน์ ในละแวกเซาธ์พอร์ต เมอร์ซี่ย์ไซด์ ก่อนจะมีปัญหากับ มาร์คัส แม็คกี ที่รับบทดีเจรับเชิญในคืนนั้น หลังจากขึ้นศาล ลิเวอร์พูล กราวนด์ คอร์ด เพื่อรับทราบคดีรวมถึงรับฟังข้อหาต่างๆ ทางตุลาการประจำศาลได้เลื่อวันตัดสินออกไป
มาร์คัส แม็คกี ที่ถูกเปิดเผยว่า เป็นแฟนบอลตัวยงของแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ออกมาแฉอย่างหมดเปลือกว่า กัปตันทีมทัพหงส์ได้แสดงความเกรี้ยวกราดใส่เขา รวมถึงออกอาวุธเหมือนภาพวงจรปิดของผับดังกล่าวถูกนำมาเป็นหลักญานในศาลด้วย
แล้วหลักฐานก็มัดตัวเลยต้องให้การสารภาพว่าเป็นการป้องกันตัว สาเทวดาช่วยด้วย นักเตะขั้นเทพของหงส์แดงต้องไม่ติดคุกนะทีมจะพังเอา เชื่อว่าความดีที่ทำประโยชน์ต่อชาติคงจะไม่ได้รับโทษหนัก นี่ละหนาแค่การเมาและความสนุกเป็นที่มาของการมีทุกข์จริงๆ
ถ้าหากผิดจริง หงส์แย่แน่งานนี้ เพราะ เขาคือ คนที่เก่งที่สุดในโลก ของผม


ลีลาสาวหมัดของยอดนักเตะ

จริงหรือเปล่า ที่ตอร์เรส เก่งที่สุดในโลก

"เอล นินโญ่" เฟร์นานโด ตอร์เรส กลายเป็นขวัญใจเดอะ ค็อป อย่างรวดเร็ว และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลก เฟร์นานโด โฆเซ่ ตอร์เรส ซานซ์ โด่งดังมากับแอตเลติโก หรือทีม "ตราหมี" ในสมญาแบบบ้านเรา เนื่องจากเป็นสายเลือดแท้ๆ ของชาวมาดริด ที่เกิดและเติบโตในมหานครแห่งนี้ และเลือกที่จะเล่นให้กับแอตเลติโก หนึ่งในสองสโมสรชั้นนำของเมืองหลวงสเปน แต่กระนั้นหากย้อนถึงต้นกำเนิดแล้ว ตอร์เรส เกิดในเขตฟูเอ็นลาบราด้า ย่านซึ่งเป็นแถบที่มีแต่แฟน "รีล มาดริด" มากกว่า กระนั้นเจ้าหนูตอร์เรส กลับเลือกที่จะสวมชุดแดง-ขาว ของแอตเลติโก และได้กลายมาเป็นนักเตะหมายเลขหนึ่งของทีมได้ในเวลาอันรวดเร็วเหลือเชื่อ ด้วยพรสวรรค์ที่มีมากล้นในตัว ในปี 1999 ตอร์เรส ได้เซ็นสัญญาฉบับแรกกับต้นสังกัดหลังจากที่แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในระดับเยาวชน และก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในทีมตั้งแต่ฤดูกาล 1999-2000 ด้วยวัยเพียง 15 ปี แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสลงสนาม ตอร์เรส มาสร้างชื่อให้ตัวเองได้อย่างมากในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติระดับเยาวชน รุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปีที่อังกฤษ ในปี 2001 โดยนำสเปน คว้าแชมป์มาได้และยังคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย แมวมองของทีมนิวคาสเซิ่ลแนะนำให้ปู่บ็อบ ซื้อมาร่วมทีมแต่กลับถูกเมิน หลังจากนั้น ตอร์เรส ก็ยังฉายรัศมีโดดเด่นในระดับฟุตบอลเยาวชนอีกหลายรายการ ทั้งในศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ที่ตรินิแดดแอนด์โตเบโก ในเดือน พ.ย.2001 ,ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี ที่นอร์เวย์ ในเดือน ก.ค. 2002 ซึ่งรายการนี้สเปน คว้าแชมป์และเป็นอีกครั้งที่ตอร์เรส คว้าทั้งดาวซัลโวและนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ เมื่อพรสวรรค์เริ่มเปล่งประกาย ตอร์เรส ก็ได้รับโอกาสในการประเดิมสนามกับทีมแอตเลติโกจนได้ โดยได้ลงเล่นนัดแรกใน บิเซนเต้ กัลเดรอน สนามเหย้าของทีม "ตราหมี" ในนัดที่พบกับเลกานเญส แต่ "เอล นินโญ่" มาสร้างชื่อได้ในเกมถัดมาเมื่อสามรถทำประตูแรกให้กับสโมสรได้ในเกมกับอัลบาเซเต้ และทำให้กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้แอตเลติโก มาดริดด้วย ในฤดูกาลนั้น ตอร์เรส ช่วยกอบกู้ทีมให้กลับมาเล่นในระดับพรีเมรา ลีกา ได้อีกครั้งหลังตกต่ำหล่นชั้นไปเล่นเซกุนด้า บี อยู่ไม่นาน และในฤดูกาลแรกหลังพาทีมกลับขึ้นมาเล่นในระดับสูงสุด ตอร์เรส ก็ยังทำผลงานได้ค่อนข้างดีโดยยิงไป 13 ประตูด้วยกัน ก่อนที่ "เอล นินโญ่" ซึ่งเป็นฉายาที่ได้รับจากใบหน้าที่หล่อใสสะอาดเกลี้ยงเกลาของเจ้าหนูตอร์เรส จะได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมแอตเลติโก มาดริด ที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าผลงานของสโมสรจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่ชื่อของตอร์เรส ก็กลายเป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลสเปน โดยเฉพาะกับเวทีระดับทีมชาติที่ได้รับโอกาสประเดิมนัดแรกในวันที่ 6 ก.ย. 2003 ในการเจอกับโปรตุเกส ก่อนจะทำประตูแรกในนามทีมชาติได้ในการเจอกับอิตาลี ในปีถัดมา
ตอร์เรส ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติแทนที่สายเลือดเก่าอย่างเฟร์นานโด มอริเอนเตส และราอูล กอนซาเลซ โดยเฉพาะในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ที่สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นร่วมกับดาวิด บิย่า อีกหนึ่งความหวังใหม่ของวงการลูกหนังกระทิงดุ ซึ่งในฟุตบอลโลกที่เยอรมัน ตอร์เรส ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมชาติสเปนในรายการนี้ด้วย อย่างไรก็ดีหลังกลับมาจากเยอรมัน ตอร์เรส ต้องเผชิญกับกระแสข่าวลือเรื่องการย้ายทีมหนักกว่าในทุกฤดูกาลที่ผ่านมา เนื่องจากสโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมต้องการที่จะได้ตัวดาวยิงหน้าเด็กรายนี้ไปร่วมทีม โดยเฉพาะสโมสรในอังกฤษอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ที่พยายามติดต่อทาบทามมาโดยตลอด แต่กัปตันทีมแอตเลติโก ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจย้ายไปไหน
ทว่า ฤดูกาล 2006-07 ตอร์เรส ก็ตัดสินใจย้ายซบ ลิเวอร์พูล ที่มี ราฟาเอล เบนิเตซ เพื่อนร่วมชาติเป็นกุนซือ ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (ราว 2,100 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติสโมสรด้วย และแน่นอนว่าเป็นการหักอกอีกหลายสโมสรที่หมายตาอดีตกัปตันทีม "ตราหมี" ไว้เช่นกัน อันรวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และเชลซี
ตอร์เรส เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และสื่อรายงานว่าเขาได้ยอมลดค่าเหนื่อยที่ได้รับสูงถึง 103,000 ปอนด์ (ราว 7.21 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ในการเล่นที่สเปน มาเหลือ 90,000 ปอนด์ (ราว 6.3 ล้านบาท) ในการเล่นกับลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2007 "เอล นินโญ่" ก็ได้ลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกให้กับ แอสตัน วิลล่า ซึ่ง "หงส์แดง" เอาชนะไป 2-1 ส่วน ประตูแรกในพรีเมียร์ชิพ เกิดขึ้นในเกมที่เสมอกับ เชลซี 1-1 โดยเขาทำประตูได้ในนาทีที่ 16 ต่อหน้าแฟนๆ ในแอนฟิลด์ จากนั้น ตอร์เรส ก็ทำแฮตทริกได้ในเกมที่ถล่ม เรดดิ้ง 4-2 ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ การทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ และสัญชาตญาณการเป็นกองหน้าของเขาทำให้ ตอร์เรส ครองใจสาวกหงส์แดงได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องสงสัยเลยว่า "เอล นินโญ่" จะกลายเป็นตำนานดาวยิงเบอร์ 9 คนต่อไปในถิ่นแอนฟิลด์ได้แน่นอน แล้วเขาผู้นี้ก็เป็นขวัญใจของเดอะค็อปไนที่สุด แถมพาทีมชาติของตัวเองได้แชมป์ ยูโร2008ไปครองได้อย่างสบายใจจากฟอร์มการเล่นทั้งในสโมสร และทีมชาติ สามารถมองได้ว่านี่คือกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลก เพราะมีคุณสมบัติของตัวเป้า ทั้งเร็ว แข็งแกร่ง หาจังหวะเข้าทำได้ดี จบสกอร์เฉียบคม หากมีคู่ขาที่ดีพอ จะทำให้ทีมหงส์แดงไปได้ไกลกว่านี้ในเวลาอันใกล้ โลกต้องยอมสยบให้ตอเรสผู้นี้

หงส์สู้ได้อย่าไปกลัว ขุมกำลังเดิมเกินพอ

เหล่าแฟนบอลที่เห็นนักเตะตัวเจ๋งๆหลุดมือไปเกือบหมด ไล่ตั้งแต่ แกเร็ธ แบร์รี่ ที่เลือกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะข้อเสนอของลิเวอร์พูล สู้ไม่ไหว (ความจริงยื่นข้อเสนอเข้าไปด้วยแต่สู้ไมไหว) เรื่อยมาถึง คาร์ลอส เตเวซ ก็หลุดมือด้วยเหตุผลเรื่องค่าตัว 25.5 ล้านปอนด์ที่เกินเอื้อมไปนิด (ไม่ควรเอามาลกทีมหรอก)ราฟา เบนิเตซ นายใหญ่ชาวสเปน เซ็งมากที่สุดคือกรณีของ ดาวิด ซิลบา ที่หมายมั่นปั้นมืออยู่นานว่าจะเอาตัวมาให้ได้ ก็ส่อเค้าจะย้ายไปสวมชุดขาวของเรอัล มาดริด
ดังนั้นลืมชื่อของ ดาวิด ซิลบา ที่ค่าตัวแตะหลัก 40 ล้านปอนด์ได้เลย!
ตกลงแล้วลิเวอร์พูล จะได้ใครบ้าง? คำถามนี้เดอะ ค็อป หลายคนคงอยากรู้
เอาชัดๆได้ เกล็น จอร์นสัน แบ็คขวา มาแล้วแม้จะแพงหน่อย แต่น่าจะคุ้มเพราะเล่นให้ ปอร์ทมัธได้ดีเหลือเกินส่วนรายนี้ เอเซเกวล ลาเวซซี่ กองหน้าอาร์เจนไตน์ จากนาโปลี และ เคลแบร์ กองหน้าชาวบราซิล ของครูไซโร่ ที่ไม่รู้จะมีข้อสรุปเมื่อไรความเป็นไปได้นั้นยากทีเดียว สรุปก็คือจนถึงตอนนี้ ราฟา ที่ประกาศโต้งๆเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ว่าจะพยายามหานักเตะเข้ามาเสริมทีมให้ได้โดยเร็วที่สุด และต้องเป็นนักเตะที่ "ใช่" สำหรับการลงทุนซื้อมาเสริมให้ดีกว่าเก่าด้วยแล้วนั้น จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ใครเข้ามาบ้าง สถานการณ์แบบนี้จะบอกว่าไม่น่าเป็นห่วงก็ยังไงอยู่ ในเมื่อเห็นอยู่ว่าคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี หรืออาร์เซนอล ดูจะขยับแข้งขยับขาได้ถนัดกว่าในการตามล่าเป้าหมาย โดยเฉพาะเชลซี ที่ปีนี้จะกลับมา "ช็อปแหลก" อีกครั้ง เพื่อสร้างทีมชุดใหม่ที่จะถ่ายเลือดจากยุค "มูรินโญ่" และเอาแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ปีนี้น่าจะมีชื่อตัวระดับท็อปเข้ามาหลายคน อะไรคือปัญหาของลิเวอร์พูล ก็อยากจะชี้ให้เดอะ ค็อป เข้าใจและอย่าเพิ่งคิดมากหรือตีโพยตีพายอะไรเกินไป เพราะเดี๋ยวนี้การซื้อนักเตะเข้ามาสักคนมันไม่ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีทีมที่อำนาจทางการเงินนั้นอยู่นอกเหนือ "ระบบ" อย่าง แมนฯ ซิตี้ และปีนี้ก็มีทีมยักษ์ใหญ่ที่กำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงถึง 3 ทีมคือ เชลซี, เรอัล มาดริด และเอซี มิลาน บรรดาตัวดีๆเด่นๆย่อมเป็นเป้าหมายของทีมเหล่านี้ไปโดยปริยาย และไม่ต้องสงสัยว่าเรื่องอำนาจทางการเงินมันเทียบกันไม่ได้ ดังนั้นเชื่อได้ว่าเวลานี้มันมีการเดินหมากกันอยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว โดยเฉพาะทีมเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างลิเวอร์พูล ที่คงจะต้องงัดกลยุทธ์แรงจูงใจมาใช้มากเป็นพิเศษ นักเตะดีๆ หากย้ายเข้ามาก็ขอให้เชื่อใจได้ว่านักเตะเหล่านี้ "มีใจ" ให้จริงๆ ไม่ได้มาเพราะเรื่องเงิน ถ้าหงส์แดงไม่ได้ตัวใหม่ก็อย่าให้เสียนักเตะเทพในทีมเป้นใช้ได้ มองจากขุมกำลังของทีมและผลงานในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวจนเกินไป ราฟา ก็บอกไว้เองว่า "กระดูกสันหลัง" ของทีมยังอยู่ครบ จะไปกลัวทีมไหนเล่า จะบอกตามตรงที่ผมคิดไม่เหมือนใครคือ ยอมเสีย อลอนโซ่ได้ ลูคัส เลวา ที่แสนจะห่วยของเหล่าชาวเดอะค็อป จะพิสูจน์ตัวเองให้ดู รับรองว่าหงส์แดงยังมีขุมกำลังที่ไปไหว แต่ถ้าได้ตัวดีๆๆมาก็น่าจะเยี่ยมขึ้นไปตามลำดับ

กลางชั้นดีราคาถูก มาอามาดู ดิยาร์ร่า

หากทีมลิเวอร์พุลต้องเสีย คุณชาย ซาบี้ อลอนโซ่ มาฮามาดู ดิยาร์ร่า ผู้นี้น่าจะเป็นตัวทดแทนที่ดีที่สุดหากทำได้ เพราะ ทางราชันชุดขาวก้ดู่ทาจะโละทิ้ง เสียบแทนกันได้พอดิบพอดี ไม่เข้าใจ รีลมาดริดเหมือนกันเวลาอยากได้เนี้ย ยังกับคนขึ้นหิ้ง ยังกับหนุ่มจีบสาว พอมีการได้เสียกันแล้วทิ้งอย่างไร้เยื้อใย โดยตอนนี้ให้ความสำคัญกับ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า มากกว่าทั้งที่ดูแล้วจะด้อยกว่า มาฮามาดู จากลียงเป้นไหนๆ แกร่งทั้งเกมส์รับ และเป็นตัวโฮลบอล ชั้นยอด ไม่เป็นรองใคร หากจะกล่าวว่าเก่งพอๆกับวิเอร่า อดีตเด็กปืนโตเลยก้ไม่ใช่การกล่าวชมเกินไป เป็นคนปิดทองหลังพระในลียงจนเอสเซียงดัง ซึ่งจริงๆเล่นได้ดีกันทั้งคู่ นำเสนอ กลางผู้นี้เลยสำหรับทีมที่ยังต้องการกลางรับชั้นดี อย่างหงส์แดง หากเสีย คุณชายไป อาเซน่อลที่หากลางรับดีๆหลังจากจิลแบโต้ ซิลวา ยังไม่มีใครที่เล่นกลางรับได้เด็ดดวง อาจจะเป็นจิ๊กซอร์ตัวสำคัญที่จะทำให้ปืนโต กลับมายิ่งใหญ่ได้เพราะระบบของทีมน่าชื่นชมเหลือเกิน สาธุ ขอให้ได้ทีมที่เหมาะสมด้วยเถิดเสียดายกลางฝีเท้าดีคนนี้จริงๆ

เซนต์ ไมเคิล ใน โฉม แมนยูคู่แค้น


ไมเคิล โอเวน (Michael Owen) เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) ที่เชสเตอร์ ในเชสเชียร์ ในประเทศอังกฤษ
ไมเคิล โอเวน เป็นกองหน้าที่มีชื่อเสียงและเป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลในระหว่างปีที่เล่นให้กับลิเวอร์พูล (ค.ศ. 1996 - ค.ศ. 2004) เป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่อายุยังน้อย มีความว่องไว ยิงประตูได้คมกริบ อีกทั้งยังมีหน้าตาดี โดยมักจะถูกเปรียบเทียบกับเดวิด เบ็คแฮม ผู้เล่นกองกลางทีมชาติอังกฤษเช่นกัน จนได้รับฉายาจากแฟนฟุตบอลชาวไทยว่า "ไอ้หนูมหัศจรรย์"
ในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ไมเคิล โอเวน ซึ่ง ไมเคิล โอเวน ได้ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก ๆ ได้ลากลูกจากครึ่งสนามผ่านเข้าไปยิงประตูอาร์เจนตินาในการพบกันของทั้งสองทีมในรอบสอง ก่อนที่อังกฤษจะเป็นแพ้ไป แต่ทว่าลูกยิงลูกนั้นเป็นที่ฮือฮาและกล่าวขานเป็นอย่างมาก
ในปี ค.ศ. 2001 ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป หรือ บัลลงดอร์ (Ballon d'Or)
ในฟุตบอลโลก 2002 อังกฤษได้พบกับบราซิลในรอบสอง ซึ่งเป็นครั้งแรกด้วยที่ทั้งสองทีมพบกันในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งนัดนี้เป็นที่จับตามองอย่างมากของฟแนฟุตบอลทั่วโลก ไมเคิล โอเวน เป็นผู้ยิงประตูให้อังกฤษขึ้นนำไปก่อน 1:0 แต่ทว่าบราซิลในเวลาก่อนจะหมดครึ่งแรกไม่นานก็สามารถตีเสมอได้จากริวัลโด้ และพลิกกลับมานำในครึ่งหลัง ก่อนจะชนะไปในที่สุด
ในปี ค.ศ. 2004 ไมเคิล โอเวน ได้สร้างความประหลาดใจแก่แฟนบอลและสร้างความเสียใจให้แก่แฟนลิเวอร์พูล โดยได้ย้ายไปอยู่กับรีล มาดริดในสเปน แต่ว่าไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าสมัยอยู่กับลิเวอร์พูล ก่อนจะย้ายกลับมาอังกฤษอีกครั้งในปี ค.ศ. 2005 กับนิวคาสเซิลแต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ ทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้มากนัก เมื่อหมดสัญญากับสโมสรนิวคาสเซิลแล้ว ล่าสุด ไมเคิล โอเวน ก็ได้ตัดสินใจย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจให้เหล่าแฟนบอลด้วยการย้ายไปเล่นให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(ขอบคุณ วิกิพีเดีย)
น่าประหลาดใจยิ่งนักที่โอเว่นเลือกที่จะไปอยู่กับผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งที่เป็นทีม คู่แค้น กับ อดีต ทีมเก่าที่สร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง แต่ที่น่าเจ็บช้ำยิ่งกว่าใครจะคิดว่าโอเว่นก้เป็นคน น้อยใจก็เป็น เคยคิดจะกลับรังตั้งหลายครั้ง แต่ราฟา มันไม่เอานี่ครับ จะทำยังไงได้ ในเมื่อ สโต๊ค กับ แมนยู สน ต้องเลือกแมนยุอยู่แล้วละ ใครจะไม่เอา ย้ายไปก็ยังมีโอกาสคว้าแชมป์อีกต่างหาก จะได้พิสูจน์กันไปเลยว่า ราฟา หัวล้านคนนี้คิดผิด โอเว่นแม้จะไม่ว่องไวดังเดิม แค่การเล่นหมดความมั่นใจหากได้รับความไว้วางใจดีๆ รับรองกลับมาติดทีมชาติเป็นแน่ ได้เล่นกับ รูนี่ ใครจะหาว่าทรยศช่างมัน แม้ว่าใครจะคิดว่าเป็น "จูดาส" ไม่เหมาะสมที่จะใช้กับ เซนต์ ไมเคิ่ล เพราะ ไมเคิล ได้แสดงความพยายามจะกลับหงส์อยู่หลายครา ดันไม่เป็นที่ต้องการของผู้จัดการทีม โอกาสแก้ตัวมาแล้ว ยิงลบคำสบประมาทไปเลย โอเว่นได้ดาวซัลโว หงส์ได้แชมป์ยังงี้แฮปปี้

โอเว่น ซัด ไปแล้ว อิอิ

Wednesday 22 July 2009

เมื่อหงส์แดงเยือนไทย


เมื่อการมาเยือนไทยของหงส์แดงจบลงด้วย สกอร์ 1-1 ทีมชาติไทยในยุคปัจจุบัน บอกตามตรง ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างป้อแป้ซะเหลือเกิน และหงส์แดงเอาสำรองเล่นมากจนรู้สึกว่านี่ใช่หงส์เหรอ การเล่นในครึ่งแรกอืดอาดไปหมด ต่อเกมส์กันไม่ดีทั้งทีมชาติไทยเราเอง และ ลิเวอร์พูล แต่ประตู่ที่ขึ้นนำนั้นก็ถือว่าสวยใช้ได้ ประกอบกับ ผู่รักษาประตูทีมชาติไทย ที่มีปัญหาเรื่องปฏิกริยา ดูตั้งแต่ที่โดน ชไนเดอร์ หรือ ฟานเดอฟาร์ท ยิงแล้วคิดว่าเปลี่ยนโกล์ได้ท่าจะดี เซนเตอร์ ดู ปีเตอร์ แลง แล้วเริ่มใจชื้น ไทยมีกองกลังดีๆบ้างแล้ว เกียร์ติประวุฒิก็ดูดีมีอนาคต ณัฐพร น่าจะเล่นแบ็กมากกว่า ดูเล่นตรงกลางยังไม่ชัวร์ ขยับแดนกลาง ไทยตัวเชื่อมเกมส์อย่าง สุรัตน์ สุขะ เล่นได้ดีทีเดียว ดัสกร สุเชาว์ ยังอยู่ในมาตราฐานของตนเอง ด้านหน้า ธีรศิลป์แดงดาแสดงให้เห็นว่าเขาคือ ตัวเลือกแรก สุธี ยิงประตูได้แต่ด้วยความเป็นผีการแสดงความดีใจจึงดูแปลกๆๆ ลีซอ ต้องปรับปรุงอีกหน่อยด้านอารมณ์ และการเล่นที่รุนแรง ส่วนด้านลิเวอร์พูล บอกได้เลย เล่นไม่เอาอ่าวถ้าเทียบกับเชลซีที่ผมนั่งดูตอนเช้ากับ อินเตอร์มิลาน หวส์ปีนี้ไม่รู้ว่าหวังถึงแชมป์ได้หรือเปล่า แต่ใจอยากให้เป็นแบบปีก่อนฟอร์มแบบนั้นในช่วงท้ายฤดูกาล กลายเป็นเทพดีดีนี่เอง หากค้นพบ ฟอร์มได้ไวจะไปได้สวย หากเล่นเหมือนนัดอุ่นเครื่อง สองนัดที่ผ่านมา รับรองได้เลยหงส์คงต้องนอนพักก่อนชาวบ้านแน่เลย



คลิป ไทย 1 - 1 ลิเวอร์พูล

ปิดฉากโรนัลโด้ ถึงคราวคนทดแทน



คริสเตียโน โรนัลโด นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก (4,500ล้านบาท) ในการย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปยังเรอัล มาดริด หลังมีความพยายาม “อยาก” ย้ายทีมมานานกว่า 1 ปีเต็ม และสวมเสื้อเบอร์9ของสโมสรเปิดตัววันแรกยอดขายเสื้อหมดเกลี้ยงเลยทีเดียว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ว่าตกลง “ปีศาจแดง” จะเลือกใครมาแทน แล้วควรเป็นใคร กระแสข่าวที่ออกมาค่อนข้างรุนแรงมีมากมายว่าเป็นคนนั้น คนโน้น และคนนี้
เพราะเงิน 80 ล้านปอนด์ของ แมนฯยูไนเต็ด ทำอะไรได้มากมายหลายอย่าง ปัญหาของการค้นหาสตาร์ดังแทนที่ คริสเตียโน โรนัลโด คงเป็นอีกประเด็นข่าวหนึ่งที่แฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด และแฟนบอลคู่แข่งอยากทราบ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำเช่นนั้น ทุกคนต่างรับรู้ในความต้องการของ แมนฯยูไนเต็ด ดังนั้นต้นสังกัดของนักเตะคนดังกล่างย่อมโก่งค่าตัวให้มันแพงขึ้นไปธรรมชาติ ค่าตัวแพงมาก เซอร์ อเล็กซ์ คงไม่ต้องการ หรือหากได้ตัวมาแล้วจะแทนที่ โรนัลโด ได้ในทันทีเชียวหรือ เพราะในประวัติศาสตร์พบว่าการหาตัวตายตัวแทนเป็นเรื่องยากยิ่งนัก และไม่ใช่ทุกกรณีไปที่จะได้มาแทนของที่หายไป นี่คือปัญหาใหญ่ จะเลือกใคร...ราคาเท่าไหร่....แล้วถ้ามาแล้ว แทนได้เลยหรือไม่.... ชั่วโมงนี้กวาดตามองนักเตะทั่วทวีปยุโรปแล้วพบว่ามีอยู่ไม่กี่คนที่จะมาแทน จากกระแสข่าวที่ปรากฏออกมาแรงที่สุดคือชื่อของ ฟร้อง ริเบรี ปีกทีมชาติฝรั่งเศสที่สามารถเล่นได้ทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้ายหรือขวา เพราะ ริเบรี่ ได้พิสูจนืตัวเองในทุกเวทีแล้วว่า มีความสามารถมากมายเพียงใด ติดอยู่ตรงที่ บาเยิร์น ยังลีลาไม่อยากขายให้ใคร จนใน ที่สุดท่าน เซอร์ ได้ปิดการซื้อใครทั้งหมดทั้งปวงโดย ได้มาเสริมทีม โอเว่น โอแบต็อง ที่ไม่สามารถยึดตัวจริงได้ในบอร์กโด แต่เชื่อ ฝีมือ เซอร์ อเล็ก ว่า ผีแดงมันก็คือผีแดง น่ากลัวเช่นเดิม ไม่ต้องมีใครมาแทน "เจ็ทโด้" หรอก ผีแดงลงตัวอยู่แล้ว แต่ระวังให้ดีเหอะ มีผู้เล่นแดนกลางเจ็บแล้วจะหนาว ผีต้องการผู้เล่นทางกราบ ที่จะเพิ่มความสัมพันธ์ของทีม ตรงกลางสนามและแดนหน้านั้นแมนยูลงตัวแล้วละ หรือจะมีการเปลี่ยนระบบการเห็นหากมองจากผู้เล่นชุดปัจจุบัน คอยติดตามดูครับ


ดูการทำประตูสไตร์โรนัลโด้

ใครว่าเบนซ์ เจ๋ง ต้องรอพิสูจน์

ซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของวงการลูกหนังเมืองน้ำหอม ก็คงหนีไม่พ้น คาริม เบนเซม่า ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วได้ย้าย ไปยังทีม ยักษ์ใหญ่ของยุโรป อย่าง ราชันชุดขาว โดย เจ้าเบนเซม่า เป็นผลผลิตของทีมเยาวชนลียง ก่อนจะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี โดยนอกจากจะเป็นหัวหอกตัวเป้าในการเล่นระบบ 4-3-3 ของทีมแล้ว เบนเซม่า ยังสามารถเล่นในตำแหน่งปีกทั้งสองข้างได้ด้วย และในฤดูกาล 2006-07 เบนเซม่า ก็เริ่มเป็นที่รู้จักไปในวงกว้าง หลังกดไป 24 ประตูในการลงสนาม 37 นัด
ด้วยฟอร์มการถล่มประตูที่ร้อนแรงดังกล่าวทำให้มีหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปจ้องจะดึงตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งรวมไปถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็เสร็จโรงเรียนราชัน คว้าชิ้นปลามันทั้งที่เป็นเป้าหมายอันดับแรก ของปีศาจแดง แมน ยู นี่เอง ดาวเตะวัย 20 ปีถูกยกย่องว่าเป็น "นิว ซีดาน" เนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังมีเชื้อสายแอลจีเรียนเหมือนกันด้วย แต่ที่ เบนเซม่า เหมือนกับ ซีเนอดีน ซีดาน มากที่สุดก็คือสไตล์การเล่น โดยเฉพาะเวลาที่เขาพาบอลตะลุยเลี้ยงหลบกองหลัง เบนเซม่า สามารถทำประตูได้ทันทีในการลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก ในเกมที่พบกับ โรเซนบอร์ก ฤดูกาล 2005/06 ซึ่งเป็นการทำสกอร์ได้ก่อนลีก เอิงด้วยซ้ำ
ด้าน ผลงานในทีมชาติ เบนเซม่า ติดทีมชุดใหญ่ของทัพ "เลอ เบลอส์" ครั้งแรก ในเกมนัดกระชับมิตรที่พบกับ ออสเตรีย ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ และก็สามารถทำประตูโทนในเกมนัดดังกล่าวหลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทน ฌิบริล ซิสเซ่ ได้แค่ 7 นาที ในส่วนของยูโร 2008 รอบคัดเลือกนั้น เบนเซม่า ทำได้ 2 ประตู ในเกมที่พาทีมฝรั่งเศส ถล่มหมู่เกาะแฟโร 6-0 และคาดกันว่าในศึกชิงแชมป์ยุโรปที่ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ กองหน้าจากลียง จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย คำกล่าวดังกล่าวเป็นข้อมุลที่ได้มาจากทั่วสารทิศ จริงแล้วลองมององค์ประกอบของ เจ้า เบนเซม่าคนนี้ ยังไม่เหมือนซีดานเท่าใดนักการเปรียบเทียบแล้วลีลาหรือทักษะต่าง ๆ คงออกคล้ายสไตร์ของศูนหน้ามากว่า การจับจังหวะการเล่น การหาพื้นที่ หากมองกันดีๆ รีลมาดริด กำลังมองว่าคือโล้นทองคำคนที่สอง หรือ โรนัลดด้ อ้วนนั้นเอง แต่ไม่รู้ว่าอนาคตของเบนเวม่าผู้นี้จะ ประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะ การเล่นภายใต้ทีมชุดขาวนั้น มี มนต์ขลัง ที่ทำให้หลายต่อหลายคนดับ อนเลก้า โอเว่น คลาส แยน ฮุนเตล่า ซึ่งรายหลังเป็นประเภทเดียวกับ เบนเซม่า ซะด้วย น่าติดตามว่าของแท้จริงเท็จแค่ไหน หากสอบผ่านคงเป็นระดับดลกได้ไม่อยาก แต่สอบตกยังมีเวลาแก้ตัวเพราะอายุยังน้อย มีเวลาพิสูจน์ตัวเองอีกมาก การเลือกที่จะไปราชันครั้งนี้เป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ของ หนูเบนซ์ ยอดนักเตะแห่งฝรั่งเศสเลยทีเดียว


ดูลีลาการทำประตูเอาเองเลยครับคนนี้ karim benzema

นักเตะมีใจ ต้องยกให้ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

เมื่อกล่าวถึงนักเตะที่หมดใจ
ก็เลยนึกมาได้กับนักเตะที่สุดของหัวใจชาวหงส์ แม้จะมี เอียน รัช โอเว่น แต่คนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นพระเจ้าของชาว THE Kop ต้องยกให้คนนี้เลย Robbie fowler เทพเจ้าตัวจริงเสียงจริง แม้เจ้าตัวจะเคยเป็น แฟนของเอฟในยามเด็ก แต่ด้วยการที่มาเป็นเด้กฝึกหัดของลิเวอร์พูลจึงทำให้จิตใจของเขาเป็นสีแดงแล้ว การโชว์ฟอร์ม ในยุคที่ฟาวเลอร์ปะทุขึ้นมา มาแรงจนหากองหน้าคนไหนเทียมเทียบได้ โตขึ้นมาในยุดสไปร์บอยของหงส์ เส้นทางความรุ่งโรจนั้นผมก็ชื่นชอบฟาวเลอร์คนนี้มากและเคยตั้งให้ฟาวเลอร์คือยอดศูนย์หน้าในดวงใจเหมือนใครหลายๆๆคน ช่วงนั้นเป็นจุดเริ่มต้น และได้ตัว สแตน เดอะ แมน มาเติมเต็มทำให้เป็นคู่แดนหน้าเป็นที่หวาดกลัวของกองหลังทุกทีมที่เผชิญหน้า แม้ช่วงยุคที่ผมเริ่มดูบอลจะเป็นเอียน รัช จอร์น อัลดริด จอร์นบาร์น แต่ผมชอบการทำทีมแบบ รอย อีแวน รูปเกมส์นั้นสวยงามมากทีเดียว แต่ที่ขาดไม่ได้ผมเคยชอบนักเตะในยุคอคนั้น คือ ปีเตอร์ เบียร์ดลี่ หากเจ้าหลอเล็กได้เล่นคู่กับ ฟาวเลอร์ คิดไม่ออกเลยว่าสถิติการยิง ของ GOD จะเท่าไรเพราะ หลอเล็กยังทำให้ แอนดี้ โคล ยิงตั้งฤดูกาลเกิน40ลูกได้เลย ฟาวเลอร์ สัญชาตญาณของเขา ดีเกินคำบรรยาย ในแดนหน้า แต่ด้วยการบาดเจ็บจึงทำให้เขาคนนั้นเปลี่ยนไปยังกับคนละคนในมุมมองของคนที่เข้าข้างเป็นทุนเดิมอาจจะมองว่า จะกลับเป็นแบบเดิมได้แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะ ฟาวเลอร์ ไม่ใช่คนเดิม แต่หัวใจดวงเดิมที่ผมชื่นชมแม้ฝีเท้าจะด้อยลงไปจากการบาดเจ็บ วิ่งช้าลงและมีโอเว่นขึ้นมา การพาบอล และยืนผิดตำแหน่งบ่อยครั้ง จึง ถูก อุลลิเย่จับนั่งสำรอง แม้จะเป็นรองกัปตันทีม และด้วยความเป็นฟาวเลอรืและภาพเก่าๆติดตาแฟนบอล และ ผมก้แอบเชียร์ลึกๆว่าฟาวเลอร์จะกลับมา แต่ฟอร์มของเขาออกทะเลไปไกลเกินจะเข้าฝั่งแล้ว ในช่วงปลายจึงทำให้ยอมรับบทบาทตัวสำรอง จนในที่สุดย้ายทีม แม้เจ้าตัวไม่เคยคิดอยากจะย้ายทีม แต่ด้วยเหตุผลหลายประการทำให้นักเตะ หัวใจสีแดง ต้องย้ายไปร่วมทีมที่กำลังแรงในช่วงขณะนั้น โดยลีดส์ก็หวังในตัวฟาวเลอร์เมื่อครั้งอดีต แล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร คีแกนก็ดึงไปอยุ่แมนซิตี้ ก็เล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้าง อุลลิเย่เคยคิดที่จะซื้อฟาวเลอร์แต่คงไม่ใช่เหตุผลทางฟุตบอล เพราะว่า ฟาวเลอรืครองใจเหล่ากองเชียร์ได้ น่าจะเกี่ยวกับยืดเวลาตัวเองไม่ให้โดนไล่ออกจากผลงานอันย่ำแย่ที่แฟนบอลไม่พอใจการทำทีม สุดท้ายโดนไล่ออกไปเสียก่อนที่จะได้ตัวฟาวเลอร์ จนแล้วจนรอด ฟาวเลอร์ก็หาทางกลับหงส์จนได้ แม้จะเป็นการช่วยทีมแค่ 6 เดือนก็ตาม ในยุคของราฟา เบนิเตซ แต่มันเป็นความชื่นใจในการกลับมายังรังที่ตัวเองรัก ปัจจุบันย้ายไปเล่นในลีกออสเตรเลีย ที่กล่าวถึงเพราะข่าวล่าสุด คือ ฟาวเลอร์เสียใจแบบสุดๆที่โอเว่นย้ายทีมไปอยู่ แมน ยู ศัตรูที่คอยแย่งความยิ่งใหญ่ของเหล่าชาวหงส์แดงไป ผมเชื่อว่าวันนึง ฟาวเลอร์ต้องเป็นทีมงานสตาฟโค้ชของ ลิเวอร์พูลแน่นอน

ซาบี้ อลอนโซ่ ไม่มีใจแล้ว

เมื่อคุณชายไม่มีใจ หากจะกล่าวถึงฝีเท้าแล้วละ ก็เสียดายยิ่งสำหรับนักเตะผู้นี้ วางบอลดีมาก เล่นกลางได้อย่างยอดเยี่ยม สู้เพื่อทีม แม้จะมีบางช่วงที่สูญเสียความมั่นใจไปบ้าง แต่ ซาบี้ อลอนโซ่ ก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้หงส์แดงมาได้ไกลขนาดนี้ หากต้องสูญเสียกลางจอมเนียบผู้นี้ไปก็คงไม่เสียใจมากเนื่องจากนักเตะไม่มีใจและอีกอย่าง คนสเปนย่อมมองที่ชุดขาวของราชันชุดขาวคือทีในฝันของแต่ละคนเป็นธรรมดา ซึ่งจริงๆเขาคนนี้มีโอกาสที่จะย้ายไปเมื่อคราวที่อยู่ รีล โซซิดัด แล้วแต่ไม่ย้ายเลือกที่จะมาสู่อ้อมอกของหงส์แดงเนื่องจากเป็นทีมที่ชอบยามเป็นเด็กแต่ผมไม่เชื่อนะเพราะการสัมภาษณ์เวลาย้ายทีมใหม่ๆย่อมมีคำพูดที่สวยหรูให้แฟนบอลฟังและต้องเล่นละครเล็กน้อย ดูอย่างตอนนี้ซาบี้ ก็บอกว่ารักหงส์ แต่พฤติกรรมคือ บอกให้ทีมลดค่าตัวเพื่อจะได้ย้าย นี่หรือที่บอกว่ารัก เมื่อไม่มีใจย้ายเลยดีกว่าเพราะนักเตะที่เล่นได้ดีย่อมออกมาจากใจแม้จะสุดเสียดาย แต่ขายเหอะ เอาเงินมาหาซื้อตัวดีๆในตลาดเพื่อความสมดุลของทีมต่อไป เพราะจริงๆๆไม่ใช่นักเตะต้องห้ามอย่าง เจอร์ราด ถ้าแบบนั้นเสียไปทีมพังเป็นแน่

Tuesday 21 July 2009

ตามล่าหาฟุตบอล กับ sportconsult

กล่าวถึงแมนซิตี้ ทีมที่ใช้กำลังเงินมหาศาลเพื่อดูดนักเตะจากทั่วสารทิศเพื่อที่จะสอดแทรกขึ้นไปเป็นกลุ่มหัวแถวของตาราง
ฟันธงไว้ล่วงหน้าเลยว่าทีมเจ้าเรือใบสีฟ้าไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จที่จะสอดแทรกทีมขึ้นไปเป็น BIG 4 ในศึกพรีเมียร์ลีกได้
แม้ทีมจะมีเงินและกำลังทำเหมือนเชลซีในอดีตแต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเงินจะทำได้อย่างเชลซี แต่การได้มาของนักเตะที่เชลซีได้ในขณะนั้น การหลั่งไหลกันมาของนักเตะชั้นนำเต้มทีมแต่เจ้าเรือใบได้มานั้นยังไม่ใช่นักเตะที่เป็นคำตอบไล่ๆดูนักเตะของแมนซิตี้ยังเป็นรองทีมในบิ๊ก 4 อยู่หลายขุมขอวิจารณ์ในมุมของตัวเอง เช กิฟเว่น เก่งแต่แก่และประตูนั้นถือเป็นการแก้ปัญหาถูกจุดในส่วนนี้เพราะ โจ ฮาร์ท เท่าที่ดูยังอ่อนประสบการณ์เกินไปในระดับนี้เอา กิฟเว่นมาแทนทำให้ ปราการด่านสุดท้ายของเรือใบพังยากขึ้นแต่ปัญหาจากเกมส์รับ ไมการ์ ริชาร์ด ดูแกร่งในแผงหลังแต่ปัญหาคือเล่นตรงไหนแน่ ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายยังไม่แน่นอน เวน บริด เป็นนักเตะที่เล่นแบ็คซ้ายได้ยอดเยี่ยม แต่เจ็บบ่อยจึงทำให้มีปัญหาหากจะใช้ การิโด ในการเล่นแทนตรงกลาง ตำแหน่งเซนเตอร์ของเรือใบยามนี้ไม่มีที่ใช้ได้เลยแม้แต่คนเดียว เนดุม ริชาร์ด ดัน ก็ถือว่าไว้ใจไม่ได้หากได้จอร์นเทอร์รี่มาจริงคงจะทำให้ดูดีขึ้นไม่น้อยมันก็คงยากที่จะรวบรัดกัปตันผู้นี้ กองหลังกับกลางบอกตรงๆๆขาดเยอะแยะเลยแต่ไม่รู้เสริมหน้าไปถึงไหนแมนซิตี้เสียเงินให้กับกลางรับมาหลายตัวเหลือเกินต้องดูรูปแบบการจัดทีมลงว่าใครที่แน่จริงในตำแหน่งนี้กลางรับ แมนซิตี้มีจุดเด่นเพราะอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นที่ดีไม่ถึงกับเหนือมนุษย์แต่ก็โอเค แบรี่ คอมปานี เดอ ยองค์ สามคนนี้เป็นตัตัดเกมส์ที่ดีทีเดียว หรืออาจจะให้ คอมปานีเล่นเซนเตอร์ไปเลยเพราะว่าในทีมชาติและก่อนย้ายมาเค้าคนนี้ก็เล่นกองหลังได้ดีเช่นกัน เกลสัน เฟอนันเดส กลางรับดาวรุ่งคนนี้ดูดีอนาคตไกลแต่คาดว่าจะโดนขายเพราะไม่น่าจะเบียดสามตัวนั้นได้ แต่ถ้ามองเผื่ออนาคตตัวนี้ควรเก็บไว้ กลางรุก ประกอบด้วย โรบินโญ่ เอลาโน่ มาติน เปรตอฟ สตีเว่น ไอร์แลนด์ ทุกคนดูดีในระดับนึง แต่หากหันไปมองคู่แข่งรอบๆๆแล้วยังถือว่าสู้บิ๊กโฟร์ลำบากแดนหน้า แม้จะได้ บายอร์มา ด้วยกลางหน้าที่ล้นทีมจะปริอยู่แล้วมันไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรมาก ล้นทีมจริงๆๆ เสียเงินอย่างไร้ประโยชน์เยอะมากหากรวมๆๆค่าตัวแล้วมองไม่เห็นอนาคตที่จะลงทุนมาได้เลย ซานตาครูซ เตเบซ บายอร์ เคร็กเบลามี เบนจานี่ ไคเซโด้โบจินอฟ วาสเซล แถมที่ให้เอฟยืมไปอีก โชว ทีมชาติบราซิล ซึ่งแดนหน้ามีนักเตะมากเกินไป และข้อที่จะชี้ชัดว่าไม่มีทางที่จะแทรกขึ้น บิ๊ก โฟร ได้เลย คือ ตำแหน่ง ผู้จัดการทีมที่ไม่สามารถแก้เกมส์ในสถานการณ์ที่แตกต่างได้เลย จุดอ่อนของอดีตนักเตะที่ประสบความสำเร็จมาอย่างมากแต่เชื่อว่านำพาเรือใบลำนี้ไปไม่รอด แม้มีเงินมากองหากไม่เปลี่ยนตำแหน่งนี้ ฟันธง ไม่อยู่ในแชมเปี้ยนลีกปีถัดไป
ตามล่าหาฟุตบอล กับ sportconsultสวัสดีครับ